การวัดค่าความเค็มของน้ำ (Salinity)
ความเค็มของน้ำเกิดมาจากส่วนประกอบเกลือชนิดต่างๆ ( โดยน้ำหนัก )ที่ละลายอยู่ในน้ำ หน่วยในการกำหนดค่าความเค็มมาตรฐานที่นิยมใช้กันคือ ppt ( part per thousand , หรือ ส่วนในพันส่วนนั่นเอง ) ซึ่งจะใช้สัญลักษณ์ เป็น %o โดยในน้ำทะเลจะมีค่า Salinity โดยเฉลี่ยที่ 35 ppt และยังมีหน่วยวัดที่นิยมใช้กันอีกคือ PSU (practical salinity units ) ซึ่งเป็นวิธีวัดค่าที่ได้ความถูกต้องแม่นยำที่สุด และใช้เครื่องมือในการวัดที่มีความซับซ้อน เรียกว่า CTD Instrument นิยมใช้ในงานวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล แต่โดยทั่วไปแล้วในการเลี้ยงสัตว์ทะเลหรือการวัดค่าความเค็มของน้ำโดยทั่วไปจะใช้หน่วยในการวัดเป็น ppt หรืออาจจะวัดด้วยวิธีการวัดค่าความถ่วงจำเพาะก็ได้ แล้วแปลงค่ามาเป็น ppt
เครื่องมือที่ใช้ในการวัดค่าความเค็ม มีหลากหลายแบบหลายชนิดให้เลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม เช่น
1.เครื่องวัดค่าความเค็มโดยการวัดค่าความถ่วงจำเพาะ ซึ่งจะมีช่วงการวัดค่า 1.000 – 1.060 sg ( Specific gravity ) และบางรุ่นอาจจะมีสเกล ที่แปลงเป็น ppt มาให้ด้วย


2.เครื่องวัดค่าความเค็มแบบ Refractometer จะใช้วิธีการวัดค่าการหักเหของแสงที่กระทำต่อน้ำจะต้องการวัด ซึ่งสามารถวัดค่าได้ในช่วง 0 – 100 ppt

3.เครื่องวัดแบบ CTD ซึ่งจะใช้วิธีการวัดค่า Conductivity , Temperature , Pressure ( Depth) แล้วนำค่ามาคำนวณหาค่าความเค็มของน้ำ ในหน่วย PSU ซึ่งวิธีนี้นิยมใช้ในการวัดค่าน้ำในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นค่าที่แม่นยำที่สุด
KOTA MARINE